สุชาติเดินเลือกไซส์กุ้งสดจากฟาร์มกุ้งเจ้าประจำ
ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับการดูกุ้งในถังน้ำแข็งเฮียง้อเจ้าของฟาร์มเดินเข้ามาทักอย่างสนิทสนม
"วันนี้อยากได้กุ้งไซส์ไหนดีคุณสุชาติ"
เฮียถามอย่างเป็นกันเอง
"อ่อเฮีย
ผมอยากได้กุ้งไซส์ใหญ่เพื่อเอาไปทำฉู่ฉี่ให้เพื่อนๆผมน่ะครับ
พอดีเพื่อนมาเที่ยวบ้านเลยว่าจะเอาไปเยอะหน่อย"
สุชาติโกหกเฮียว่าจะเอากุ้งไปทำอาหารแต่ความจริงเค้าจะเอากุ้งไปทำปุ๋ยใส่ต้นไม้ที่บ้าน
ความจริงแล้วสุชาติเป็นคนที่ชอบกินกุ้งเป็นชีวิตจิตใจ
เค้าชอบมาซื้อกุ้งจากฟาร์มแห่งนี้เป็นเวลานานหลายปีแล้ว
ในหนึ่งสัปดาห์สุชาติจะต้องกินกุ้งอย่างน้อยหนึ่งมื้อ
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้สุชาติต้องเลิกกินกุ้งไปตลอดชีวิตเพราะว่า
เมื่อเดือนที่แล้วเค้าตัดสินใจไปหาหมอเพราะว่าก่อนหน้านี้หลายเดือนสุชาติเริ่มมีอาการมือชาเท้าชา
อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หงุดหงิดง่าย เบื่ออาหาร และท้องผูก
หมอบอกกับสุชาติว่าเลือดของเค้าปนเปื้อนไปด้วยสารตะกั่วจำนวนมาก
ทำให้สุชาติเป็นโรคพิษตะกั่วขั้นเรื้อรั้ง เมื่อหมอซักประวัติชีวิตประจำวันอาหารการกิน
สุชาติบอกว่าเค้าชอบกินกุ้งมากหมอจึงสงสัยว่ากุ้งอาจมีสารตะกั่วเจือปน
หลังจากนั้นสุชาติกลับไปตรวจสอบกุ้งที่ซื้อมาจากฟาร์มของเฮียง้อ
ปรากฏว่าในกุ้งแต่ละตัวจะมีเม็ดตะกั่วขนาดเท่ากรวดเม็ดทรายจำนวน 4-5 เม็ดฝังอยู่ในหัวกุ้ง
หลังจากนั้นสุชาติก็เลิกกินกุ้งตลอดชีวิตแม้จะเป็นกุ้งจากฟาร์มอื่น
"คุณสุชาติเป็นลูกค้าคนสำคัญของฟาร์มเรา
ถ้าขาดคุณสุชาติไปนี่ฟาร์มเราต้องแย่ๆแน่ๆเลย 55555" เฮียพูดหยอกสุชาติอย่างสนิทสนม
"เฮียก็พูดเกินไป
ผมเป็นแค่ลูกค้ารายย่อยมาซื้อทีละโลสองโล
เทียบอะไรได้กับร้านอาหารใหญ่ๆหลายร้านที่มาซื้อกุ้งของเฮียไปทำอาหารให้คนกิน"
สุชาติพูดโต้ตอบเฮียง้อแบบไม่สบตาเฮีย
"แต่คุณสุชาติเป็นลูกค้าที่มาเลือกซื้อกุ้งเองจากฟาร์มมานานจนตอนนี้ผมคิดว่าคุณสุชาติเป็นเพื่อนผมไปแล้วนะครับเนี่ย"
เฮียง้อตามคุยกับสุชาติอย่างสนิทสนม
"ผมต้องขอบคุณเฮียมาก ที่หลายเดือนมานี่เฮียชอบแถมกุ้งให้ผมตลอดเลย
ซื้อแค่โลเดียวแต่แถมมาให้อีกโล"
สุชาติพูดเหมือนขอบคุณเฮียที่ช่วยแถมตะกั่วในกระแสเลือดให้เค้าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
"เอาน่าๆ เล็กน้อยๆ
ถือซะว่าเราเป็นกัลยาณมิตรคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" เฮียพูดต่อ
สุชาติคิดในใจ "กัลยาณมิตรเรอะ" สุชาติเลือกกุ้งเสร็จ
นำกุ้งไปชั่งกิโลและจ่ายเงิน เฮียง้อแถมกุ้งให้สุชาติเพิ่ม
เมื่อกลับถึงบ้านสุชาตินำกุ้งทั้งหมดวางบนโต๊ะ
ค่อยๆแกะหัวกุ้งทีละตัวเพื่อใช้ครีมปลายแหลมความหาก้อนเม็ดตะกั่ว
เมื่อพบแล้วก็ครีบเม็ดตะกั่วเก็บไว้ในขวดโหลแก้ว สุชาติแยกตะกั่วออกจากหัวกุ้งจนครบทุกตัวจึงปิดฝาขวดโหลเก็บไว้
ซากเปลือกกุ้งและเนื้อกุ้งที่เหลือเค้ารวบรวมและนำไปทิ้งยังสวนหลังบ้าน
อาทิตย์ต่อมาสุชาติก็กลับมาเลือกซื้อกุ้ง
วันนี้สุชาติขอเฮียเดินดูรอบๆฟาร์มกุ้ง เฮียง้อใจดีพาสุชาติเดินชมรอบฟาร์ม
ฟาร์มของเฮียง้อเป็นฟาร์มกุ้งขนาดกลาง เลี้ยงกุ้งทั้งหมด 4 บ่อ เป็นบ่อที่ปูขอบบ่อด้วยผ้าพีอี จำนวน 2 บ่อ ขนาดบ่อ 3.5 และ 4 ไร่
และบ่อที่ไม่ปูผ้าพีอี จำนวน 2 บ่อ ขนาดบ่อ 3.5 และ 4 ไร่ มีห้องที่ทำเป็นโรงเก็บกุ้งท้ายบ่อ
"เฮียเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้ยังไง
เริ่มมาจากไหนเหรอ" ผมถามเฮียถึงเรื่องราวในอดีต
"เฮ่ออออ" เฮียง้อถอนหายใจก่อนจะตอบคำถาม
"พ่อแม่ผมเริ่มทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ตอนผมยังเล็กๆแล้ว
จากเมื่อก่อนก็ยังเป็นสระเล็กๆไม่ได้มาตรฐานอะไรมาก
กำรี้กำไรแทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำ ได้เงินมาก็พอจ่ายค่าลูกน้อง
สมัยก่อนในจังหวัดเราฟาร์มกุ้งมันเยอะ ราคาก็แข่งกันจนจะขาดทุนกันหมดแล้ว
ตอนผมอายุได้ 15 ปี พ่อท่านก็มาตายเพราะทำงานหนัก จากนั้นอีก
3 ปีแม่ก็มาตายตามกันไป"
เฮียง้อพูดถึงความยากลำบากในสมัยเด็กให้สุชาติฟัง เหมือนได้ระบายอะไรออกมา
"แล้วใครเป็นคนดูแลฟาร์มกุ้งต่อล่ะ"
สุชาติถามต่อเพราะรู้ว่าเฮียแกอยากเล่า
"ตอนที่แม่เสียผมก็ดูแลต่อเลย
เพราะงานทุกอย่างในฟาร์มผมรู้หมดแล้ว
แต่ตอนนั้นเองที่ทำให้รู้ว่าหนี้สินของฟาร์มเยอะมาก เยอะจนท้อไปเลย
แต่ก็ไม่อยากขายฟาร์มนะเพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรกิน" เฮียตอบคำถาม
"แล้วเฮียทำยังไงต่อ" สุชาติถาม
"ผมก็ไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมสิ
เปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตนิดหน่อยก็ทำให้มีรายได้ต่อเดือนมากขึ้นจนสามารถที่จะไปกู้แบงค์ไปเงินก้อนมาจำนวนหนึ่ง
จึงปรับปรุงฟาร์มให้มีมาตรฐานดีขึ้น พอฟาร์มใหญ่กำลังผลิตเยอะก็แข่งราคากับฟาร์มเล็กๆจนฟาร์มเล็กๆต้องปิดฟาร์มไปเลย
ผมจึงลืมตาอ้าปากได้ถึงทุกวันนี้ไง" เฮียง้อพูดอย่างภูมิใจ
เฮียง้อพาสุชาติเดินรอบบ่อจนถึงท้ายบ่อผ่านห้องที่ทำเป็นโรงคัดไซส์กุ้ง
สุชาติทำทีจะขอเข้าไปดู
"เฮีย ผมขอเข้าไปดูในโรงงานนั่นหน่อยได้มั้ย
อยากไปดูกรรมวิธีแยกไซส์กุ้งว่าเค้าทำยังไงกัน"
สุชาติถามเฮียง้อด้วยสายตากึ่งอยากรู้อยากเห็น
"เอาะอ่อ!
ค่ะๆคือว่าตอนนี้ที่โรงแยกกุ้งคนงานเพิ่งจะเอากุ้งขึ้นมาจากสระ
ข้างในอาจจะวุ่นวายกัน เข้าไปตอนนี้เกรงว่าจะไม่สะดวก ไว้คราวหน้าละกันเนาะ
เดี๋ยวจะให้เข้าไปดู" เฮียพูดกันท่าสุชาติที่จะขอเข้าไปดูในโรงงาน
"ไม่เป็นไรเฮีย ไว้คราวหน้าก็ได้"
สุชาติพูดเหมือนกับจะไม่สนใจที่ถูกปฏิเสธเพราะรู้อยู่แล้วว่าเฮียไม่ให้เข้าไปดูแน่
วันนี้สุชาติหิ้วกุ้งกลับบ้าน 3 กิโล แน่นอนว่าบางส่วนเป็นของแถมจากเฮียง้อ
สุชาติทำตามขั้นตอนเดิมคือแยกตะกั่วออกจากหัวกุ้งทุกตัว
และเก็บมันใส่ขวดโหลแก้วอย่างดีมีฝาปิดมิดชิด
และนำซากกุ้งไปทิ้งยังสวนหลังบ้านเหมือนเดิม
อาทิตย์ต่อมาสุชาติโทรไปถามเฮียง้อว่าวันนี้เฮียจะอยู่ที่ฟาร์มกี่โมง
เฮียบอกว่าจะอยู่ช่วงบ่ายๆ ดังนั้นสุชาติจึงเข้าไปที่ฟาร์มช่วงสายๆประมาณ 10 โมง โดยทำทีไปขอเลือกดูกุ้งเหมือนปกติ
และเมื่อคนงานอื่นๆเผลอสุชาติก็ทำเป็นเดินลงไปดูบ่อกุ้ง
เดินไปเรื่อยๆจนถึงโรงงานท้ายบ่อ
เมื่อสังเกตว่าไม่มีใครอยู่ในนั่นจึงแอบเข้าไปในโรงงาน
เป็นตามที่สุชาติคิด เค้าเห็นถังพลาสติกใบใหญ่สีดำ
ข้างในบรรจุเม็ดตะกั่วเม็ดเล็กๆประมาณเท่าเม็ดทรายเม็ดใหญ่
สุชาติแอบถ่ายรูปโดยใช้โทรศัพท์ถ่ายเอาไว้
เมื่อสุชาติมั่นใจว่าที่ฟาร์มนี้นี่เองที่แอบยัดตะกั่วลงในกุ้งก็รีบเดินออกมาจากโรงงานอย่างทันทีโดยระวังไม่ให้ใครเห็น
เมื่อออกมาสุชาติก็ทำทีเป็นเดินดูนู่นดูนี่จนเวลาผ่านไปไม่นานเฮียง้อก็กลับมา
"สวัสดีคุณสุชาติ ขอโทษทีที่ปล่อยให้รอนาน
พอดีตอนเช้าไปคุยกับร้านอาหารที่มาเปิดใหม่ ไปสู้ราคากับเจ้าอื่นๆมา
สรุปเป็นผมที่สามารถขายได้ในราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่น"
เฮียง้อทักทายสุชาติอย่างอารมณ์ดี
"ไม่เป็นไรครับเฮีย
ผมก็เพิ่งมาก่อนหน้าเฮียไม่นานหรอก พอดีที่บริษัทจะมีงานเลี้ยงน่ะ
ผมเลยจะมาเอากุ้งไซส์ใหญ่ซัก 10 โลไปเลย
แต่งวดนี้เฮียไม่ต้องแถมให้ผมนะ เพราะบริษัทให้งบมาแล้ว"
สุชาติพูดกับเฮียด้วยสีหน้าเก็บอาการจากสิ่งที่เค้าเจอมาเมื่อซักครู่นี้ "อ่อ
แล้ววันนี้ผมขอบิลเงินสดด้วยนะ พอดีต้องใช้ตั้งเบิกกับบริษัทด้วยน่ะเฮีย"
สุชาติย้ำ
"ได้เลยๆ" เฮียรับปากสุชาติ
"นี่คือไซส์ที่ใหญ่และดีที่สุดของเราเลย
รับประกันได้ว่าฟาร์มเราราคาดีที่สุดแล้วในจังหวัด คุ้มแน่นอน" เฮียง้อพูด
"ใช่แล้วเฮีย ผมถึงอุดหนุนฟาร์มนี้ไม่เคยเปลี่ยนไง"
สุชาติตอบเฮียง้อ "เฮีย วันอาทิตย์หน้าเฮียมีธุระไปไหนมั้ย"
สุชาติถามเฮียง้อ
"อาทิตย์หน้าไม่มีนะ ทำไมเหรอ" เฮียง้อถาม
"คือว่าอาทิตย์หน้าเฮียไปเที่ยวสวนของผมมั้ย
เป็นสวนผลไม้ของผมเอง ได้มรดกมาจากพ่อ แต่ว่าผมไม่อยากให้ใครรู้น่ะว่าสวนนั้นมีผมเป็นเจ้าของ
เฮียห้ามบอกใครนะแม้แต่ลูกน้องว่าไปดูสวนกับผม"
สุชาติพูดย้ำกับเฮียโดยระวังไม่ให้ใครได้ยิน
"อ่อๆ ได้ๆไม่มีปัญหา
เดี๋ยวไว้วันอาทิตย์หน้าค่อยโทรนัดกันออกไปเจอข้างนอกก็ได้" เฮียง้อพูด
"งั้นวันนี้ผมไปก่อนนะ
เดี๋ยวต้องรีบเอากุ้งไปให้พ่อครัวที่บริษัทจ้างมา ไว้เจอกันเฮีย"
สุชาติบอกลาเฮีย เฮียง้อตอบรับ
สุชาติขนกุ้งกลับไปทำตามขั้นตอนเดิมทุกประการแต่วันนี้มีปริมาณมากหน่อย
สุชาติแยกตะกั่วออกจากตัวกุ้ง เก็บตะกั่วใส่ในขวดโหล
นำซากกุ้งไปทิ้งยังสวนหลังบ้าน
สุชาติเอารูปตะกั่วในโรงงานที่ถ่ายมาเปิดดูเทียบกับตะกั่วในขวดโหล
เมื่อมั่นใจลักษณะตะกั่วใกล้เคียงกัน
สุชาติจึงได้นำขวดโหลที่ใส่เม็ดตะกั่วจำนวนมากพร้อมเอกสารจำนวนหนึ่งไปส่งยังสถานที่ๆหนึ่งซึ่งมีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
อาทิตย์ถัดมาสุชาติโทรไปหาเฮียง้อตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อนัดออกมาเจอกันแถวนอกเมืองในเวลาบ่ายโมง
โดยไม่ลืมที่จะกำชับว่าอย่าบอกใครว่าออกมาเจอกับเค้า
สุชาติไปแอบซุ่มรอเฮียง้อตั้งแต่เช้าแล้วโดยไปซ่อนตัวแถวใกล้จุดนัดพบ
เมื่อถึงเวลานัดพบเฮียง้อขับรถเข้ามาเห็นสุชาติยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว จึงถามสุชาติว่า
"อ้าว! แล้วคุณสุชาติมายังไงเนี่ย
เอารถไปจอดไว้ที่ไหน" เฮียง้อถาม
"อ๋อ ผมเอารถจอดที่สวนไง
แล้วก็เดินออกมารับเฮียตรงนี้ เพราะถ้านัดที่สวนเลยกลัวเฮียไปไม่ถูก"
สุชาติตอบด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมมาดมั่น
"เฮีย
ความจริงวันนี้ผมไม่ได้ชวนเฮียมาดูสวนผมอย่างเดียวนะ" สุชาติพูด
"อ่อๆ แล้วมีอะไรอีกเหรอ ที่ชวนมาวันนี้"
เฮียง้อถาม
"ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานี้เฮียสมนาคุณของแถมให้ผมตลอดเลย
ผมรู้สึกเกรงใจเลยคิดว่าจะเอาของสิ่งนั้นมาคืนเฮียน่ะ"
สุชาติพูดพร้อมจ้องตาเฮียง้ออย่างดุดัน
"อ่อๆ ถ้าคิดจะเอาเงินมาคืนให้เลิกคิดไปเลย
ผมไม่เอาหรอก" เฮียง้อพูด
"ไม่ใช่เงินเฮีย แต่เป็นอันนี้"
สุชาติหยิบเม็ดตะกั่ววางบนมือเฮียง้อหนึ่งเม็ด
เฮียง้อก้มหน้าดูแต่ไม่ทันที่เฮียง้อจะดูเสร็จว่าเป็นเม็ดอะไรสุชาติพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น
"นั่นยังไม่หมด ยังเหลืออีกเม็ดหนึ่ง"
เมื่อพูดจบสุชาติเล็งปืนมาที่หัวเฮียง้อ เหนี่ยวไกปืน .38 ทะลุกลางหัวเฮียง้อ
เฮียง้อตายคาที่
จากนั้นสุชาติรีบหลบหนีตามเส้นทางที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้
สุชาติต้องรีบกลับบ้านไปพักผ่อน
วันพรุ่งนี้เค้ามีนัดเข้ารับการรักษาโรคพิษตะกั่วที่โรงพยาบาล
สุชาติตั้งใจว่าก่อนที่จะเข้ารับการรักษาทางกายเค้าอยากชำระความแค้นทางใจออกไปก่อน
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
สุชาติส่งตะกั่วทั้งหมดที่เค้าเก็บไว้ในขวดโหลแก้วไปให้โรงหล่อโลหะ
และเอกสารนั้นเป็นแบบหัวกระสุนของลูกปืน .38 เมื่อสุชาติได้หัวกระสุนที่มาจากตะกั่วในตัวกุ้ง
จึงนำหัวกระสุนนี้ไปสลับกับหัวกระสุนที่ติดมากับลูกกระสุนเดิม
เมื่อสุชาติยิงเฮียง้อตาย เค้าพูดออกมาเสียงหนักแน่นว่า
"ของสิ่งไหนที่มันไม่ใช่ของเรา ก็ให้คืนเจ้าของเค้าไป
ตอนนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ"