วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560

คู่เสียงที่หายไป





ผมวอร์มนิ้วด้วยบทเพลง Romance de amour บนสายกีตาร์คลาสสิก  ท่วงทำนองและการวางนิ้วง่าย ๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าในตอนนั้นผู้บรรเลงจะมีความเศร้าที่เก็บซ่อนไว้ภายในอย่างไรแต่เขาคงไม่อาจอาจปิดบังความรู้สึกนี้ไว้เมื่อเล่นเพลงนี้ได้อย่างแน่นอน โน้ตเพลงทำให้ผู้ฟังพลิ้วไหวไปกับท่วงทำนองสั้น ๆ แต่ถลำลึกดำดิ่งลงไปในข้างในของจิตใจ

ในหัวค่ำแขกในร้านยังไม่เยอะนัก ผมบรรเลงเพลงในคลับร้านเหล้าเล็ก ๆ ที่ญาติของผมเองเป็นเจ้าของ แขกแต่ละคนที่มามักจะหน้าเดิม ๆ ที่ต้องการบรรยากาศเดิม ๆ ในการจิบน้ำสุรา ทุกคนที่มาที่นี่มันจะไม่ค่อยพูดจากันเพราะเขาต้องการมาฟังเพลงบรรเลง
เมื่อแขกเริ่มเข้ามาเกือบค่อนร้านผมเริ่มเล่นเพลงที่มีจังหวะเร้าใจอย่าง Spanish Dance No. 5 เพราะอยากให้ช่วงหัวค่ำยังเป็นเพลงที่สนุกสนานเร้าใจ สำหรับเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบมากอีกเพลงหนึ่ง เริ่มต้นของเพลงนี้ถูกใช้บรรเลงโดยเปียโน แต่ผมคิดว่าเมื่อมันถูกนำมาเรียบเรียงโดยใช้กีตาร์สายเอ็นเล่น มันดูสนุกและเร้าใจมากกว่า แขกหลายคนพึงพอใจกับเพลงนี้แม้พวกเขาจะเคยฟังมันมาแล้วหลายร้อยรอบก็ตาม

กีตาร์คลาสสิกมักจะเล่นด้วยคีย์ของเพลงที่เน้นอารมณ์ของความโศกเศร้าเป็นหลัก หลาย ๆ เพลงที่ผมเตรียมมาในวันนี้มักจะมีความเศร้าแฝงไว้ในนั้น ผมไม่อยากให้ผู้ฟังของผมเข้าถึงอารมณ์นั้นเร็วเกินไป รวมถึงตัวผมเองด้วยที่ไม่อยากให้หัวใจสั่นไหวก่อนเวลาอันควร
ผมยังอยากรักษาบรรยากาศสนุกสนานนี้เอาไว้ก่อน ผมคิดจะเล่นเพลง Choro No.1 ที่ถูกประพันธ์โดย Heitor Villa Lobos บทเพลงที่มีจังหวะคึกคักในแบบของเพลงบรรเลงโดยเครื่องดนตรีชิ้นเดียวนี้ คงไม่สามารถทำให้ใครลุกขึ้นมาเต้นได้ แต่ผมก็ยังมั่นใจว่ามันคงทำให้ใครหลายคนเพลิดเพลินไปกับท่วงทำนองนี้ได้
ชื่อ Choro No.1 นี้นำมาจากแนวเพลงประเภทการแสดงสดในบราซิล เพลงบรรเลงที่มีต้นกำเนิดในริโอเดอจาเนโรในศตวรรษที่สิบเก้า ซึ่งในช่วงเวลานั้นมักจะแต่เพลงแจ๊สซึ่งเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่

เมื่อเห็นแขกเต็มร้าน ผมหยุดพักทักทายกับลูกค้าที่เข้ามานั่งในร้านด้วยประโยคสั้น ผมรู้ว่าคนเหล่านี้ต้องการฟังเสียงบรรเลงเพลงมากกว่าที่จะมาฟังผมพล่ามอะไรบนเวที แต่ผมก็แค่อยากจะให้บรรยากาศนั้นผ่อนคลายลงและให้ผู้ฟังทุกคนไม่รู้สึกเกร็ง ๆ เท่านั้นเอง
ในการเอาใจผู้ฟังที่เป็นลูกค้าร้านเหล้าทั่วไป ผมมักจะเล่นเพลงสากลสมัยใหม่ที่ถูกนำมาเรียบเรียงเป็นเพลงบรรเลง ผมกำลังจะเล่นเพลง Hotel California เพียงแค่ผมขึ้นท่อนอินโทรเท่านั้น แขกในร้านก็พากันตบมือสร้างบรรยากาศเหมือนในคอนเสิร์ตของวง Eagles อย่างไรอย่างนั้นเลย และในระหว่างที่ผมเล่นช่วงที่เป็นเนื้อร้องของเพลง แขกบางคนก็ทำท่าขยับปากตามเนื้อเพลงที่เขาเคยฟัง นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขารู้สึกอินและสนุกสนานมากกับเพลงนี้
และเมื่อผมตีคอร์ดรัวสามครั้งเพื่อจบเพลง เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือก็ดังอีกครั้ง

Wonderful Tonight ของ Eric Clapton ก็ถูกนำมาเรียบเรียงเป็นเพลงบรรเลงโดยกีตาร์คลาสสิกอีกเช่นกันบทเพลงที่หวานซึ้งนี้มีเนื้อหาคำร้องเกี่ยวกับการพรรณนาถึงหญิงสาว ทุกคนจดจำความรู้สึกและคำร้องของเพลงได้เป็นอย่างดี พวกเขาบางคนฟังเพลงนี้แล้วหันไปยิ้มและโอบกอดพร้อมกุมมือคนข้าง ๆ ไว้ หรือบางคนอาจจะมีคนให้คิดถึงอยู่ที่บ้านหรือสถานที่ห่างไกลกันก็ตาม แต่สำหรับตัวผมนั้นได้แต่เฝ้าสะท้อนใจถึงความว่างเปล่าในเรื่องนี้
เพลงนี้เล่นด้วยจังหวะง่ายที่แทบจะราบเรียบ ใช้โน้ตเพียงไม่กี่ตัวเล่นสลับกันไปมา แต่ผมกลับรู้สึกว่าเพลงนี้ทรงพลังมาเมื่อนึกถึงต้นฉบับของเพลง


แม้ผมจะเล่นบทเพลงที่สำหรับใช้เป็นแบบฝึกหัดอย่าง Etude Op. 35 No. 17 ของ Fernando Sor แต่มันก็เป็นท่วงทำนองที่สะกิดใจของผู้ฟังได้ เคยมีคนว่าไว้ว่ามันเป็นส่วนผสมระหว่างความสุขและความเศร้า มันเหมือนกับกับเวลาที่คุณได้เจอใครหรือสัมผัสกับสิ่งใดหลังจากที่ไม่ได้เห็นกันมานานมาก หรือคิดว่าทำสิ่ง ๆ  นั้นหายไปแล้ว
แต่สำหรับตัวผมเองนั้นคงจะมีแต่ความเศร้าสำหรับบทเพลงนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าเธอคนนั้นจะกลับมาหรือไม่ หรือผมอาจจะต้องจมอยู่กับความทุกข์ต่อไป

เพลงแบบฝึกหัดอีกบทเพลงหนึ่งอย่าง Etude Op. 6 No. 11 นั้นก็ดูค่อนข้างจะเศร้า แม้มันจะอยู่ในจังหวะที่ดูเริงร่าและความเร็วไม่ช้าเกินไปนัก

หลายครั้งเมื่อผมเล่นมาถึงตรงนี้ ความทรงจำเก่า ๆ ก็มักจะผุดขึ้นมา แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเล่นดนตรีของผมหรอก มันกลับทำให้ผมขับกล่อมบรรเลงเพลงได้ดีขึ้นเสียอีก
ยังซ้อมไม่เสร็จเหรอ
เสียงนี้ยังคงอยู่ในหัวของผม แม้มันจะลางเลือนเท่าไหร่ก็ตาม ในตอนนั้นผมไม่เคยใส่ใจกับเสียง ๆ นี้ มีแต่เสียงดนตรีและทำนองเพลงใหม่ ๆ ที่ผมเห็นเป็นเรื่องสำคัญกว่า
ผมสลัดความคิดนั้นออกจากหัว แต่ทว่าความเศร้าโศกนั้นยังอยู่ที่เดิม และเมื่ออารมณ์ได้แล้ว ผมจึงคิดที่จะบรรเลงเพลง Recuerdos de la Alhambra เพลงนี้ใช้เทคนิค Tremolo ในการดีด ทำให้เสียงบรรเลงกีตาร์นั้นคล้ายกับการสีไวลิน เพลงนี้เป็นบทเพลงเศร้า และนั่นทำให้ผมคิดถึงเธอมากขึ้น

ค่ำคืนนี้ผมบรรเลงอีกหลายบทเพลงที่เน้นอารมณ์เศร้าเป็นหลัก ผมคิดถึงเธออีกหลายครั้ง ไม่เคยมีคำตัดพ้อใด ๆ ออกมาจากปากเธอให้ผมได้เอะใจ กว่าจะรู้ตัวอีกทีเธอก็ลาจากไปแล้วโดยทิ้งคำพูด ๆ หนึ่งไว้ให้ และคำพูดนั้นก็บาดลึกเข้าไปในจิตใจของผมจนยากที่จะข่มความเจ็บนั้นไว้ในเวลาต่อมา

ครั้งหนึ่งในชีวิตของนักเล่นเพลงก็อยากจะมีเพลงที่ตัวเองแต่งเองบ้าง ผมพยายามแต่งเพลงโดยการใช้คู่เสียงที่ต่างกันในแต่ละคู่และตามโน้ตเพลงที่คิดได้ แต่มันก็ไม่ได้ดีหรือสนุกอะไรมากนัก ผมใช้ช่วงท้าย ๆ ของการแสดงลองเล่นเพลงนี้ให้แขกฟัง ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขาชอบมันหรือเปล่า อาจจะไม่มั้ง พวกเขาอาจจะคิดว่าผมกำลังตั้งสายกีตาร์อยู่ก็เป็นได้ มันฟังดูไม่ค่อยเหมือนเพลงเท่าไหร่
เพลงนี้ผมยังแต่งไม่จบ ขาดท่อนลงเพราะผมไม่สามารถหาโน้ตตัวสุดท้ายที่จะเป็นคู่เสียงของโน้ตก่อนหน้าได้ ผมแกล้งค่อย ๆ แผ่วเสียงกีตาร์จนเงียบเพราะไม่อยากเล่นเพลงที่ยังดูด้วน ๆ นี้ออกไป แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะแขกคงคิดว่าผมกำลังตั้งสายกีตาร์อยู่มั้ง
เธอจากไปในตอนที่ผมยังแต่งเพลงไม่เสร็จ ผมเสียใจที่ไม่ฉุดรั้งเธอไว้เพราะตอนนั้นต้องการสมาธิในการแต่งเพลงให้จบ และกะว่าจะไปง้อเธอเมื่อเพลงนี้สมบูรณ์แล้ว แต่ทว่าจนบัดนี้คู่เสียงสุดท้ายนั้นผมยังหาไม่เจอ
คำพูดสุดท้ายของเธอดังขึ้นมาในหัวของผมอีกแล้ว

ขอให้มีความสุขกับการเล่นกีตาร์นะ

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

แรงเฉื่อย


สายตาที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้ากำลังจับภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตาสีดำในม่านตาขาวนิ่งสนิทแม้ว่ามันกำลังจดจ้องอยู่กับภาพที่สลับไปมาอย่างรวดเร็ว ริ้วรอยรอบดวงตาที่นิ่งสนิทเผยให้เห็นตัวเลขเลยหลักห้าสิบของอายุอเนกไปแล้ว ภาพที่อเนกกำลังจ้องมองดูนั้นไม่ใช่การแข่งขันเรื่องความเร็วของนักแข่งรถในสนามหรอก มันไม่ใช่ภาพของการเต้นรำท่ามกลางแสงสีในจังหวะดิสโก้ และมันก็ไม่ใช่ภาพที่ดูแปลกหูแปลกตาอะไรหรอก แต่ภาพที่อเนกกำลังเฝ้าดูอยู่นั้นเป็นภาพในโรงอาหารของตึกสำนักงานสูงสามสิบชั้นแห่งหนึ่ง
ไอระเหยจากถ้วยกาแฟร้อนบนโต๊ะของอเนกหมดไปนานแล้ว แม้น้ำสีดำยังคงเต็มถ้วยอยู่ จานอาหารบนโต๊ะหมดไปแค่ครึ่ง แต่เจ้าของอาหารก็ไม่แตะจานข้าวแล้ว ความเชื่องช้าและนิ่งสงบบนโต๊ะของอเนกช่างตรงกันข้ามกับบรรยากาศในโรงอาหารช่วงพักเที่ยงในวันทำงานยิ่งนัก พนักงานชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกำลังนั่งเคี้ยวข้าวอย่างเร่งรีบ เขาไม่ยอมปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วยการกดจิ้มหน้าจอโทรศัพท์ พลางกินข้าวไปเพียงสองสามคำก็ยกแก้วน้ำปั่นขึ้นมาดูดอึกใหญ่ ชายหนุ่มผู้เร่งรีบทำทั้งสามอย่างนี้สลับกันจนจานข้าวหมดและในแก้วเหลือแต่เศษน้ำแข็ง เขาก็รีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูทันทีพร้อมกรอกเสียงลงไปในนั้น
อเนกเบี่ยงทิศทางการมองออกไปเพียงไม่กี่องศา และปรับระยะโฟกัสออกไปนึดหนึ่งก็จับภาพของกลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวที่ดูเหมือนเพิ่งจะจบการศึกษาและเริ่มเข้าทำงานใหม่ ทั้งโต๊ะต่างนั่งกินข้าวเงียบ ๆ โดยไม่มีการหันไปพูดจาอะไรกัน นั่นทำให้ดูว่าทั้งหมดนั้นเหมือนกับจะไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทอะไรกัน คงจะเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งจะมาเจอหน้ากัน เลยทำให้ยังไม่สนิทสนมอะไรกันมากนัก เมื่อทั้งหมดกินข้าวเสร็จก็ลุกเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ
ข้าง ๆ กันนั้นมีหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงเดินถือจานอาหารพร้อมแก้วน้ำมา เธอกำลังมองหาโต๊ะที่ว่างและสะอาดในช่วงเวลาที่คนพลุกพล่านในโรงอาหารและแม่บ้านมักจะเก็บโต๊ะไม่ค่อยทัน พอดีที่แม่บ้านเก็บโต๊ะนั้นเสร็จ หญิงสาวผู้มาใหม่ก็วางจานและแก้วน้ำลง เธอยังไม่รีบกินเหมือนคนอื่น ๆ แต่เธอรีบหยิบตลับเครื่องสำอางมาแต่งหน้าอย่างเร่งรีบ และเมื่อเธอก้มเงยส่องกระจกบานเล็กจนมั่นใจแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อย เธอจึงรีบลงมือจัดการกับอาหารในจานทันที
แต่ทว่าเมื่อหญิงสาวกินข้าวไปได้เพียงแค่สามคำ ดูเหมือนว่าเสียงโทรศัพท์ของเธอจะดังขึ้นจนทำให้ผู้ที่กำลังเคี้ยวอาหารต้องรีบกลืนข้าวลงลำคอไป เธอหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดูดหนึ่งทีก่อนจะรีบควักโทรศัพท์มารับ ท่าทีกระสับกระส่ายในระหว่างสนทนานั้นดูน่าอึดอัดใจ เมื่อสิ้นสุดการสนทนาเธอก็ทิ้งอาหารและน้ำในแก้วโดยการเดินออกไปทันที
ภาพบรรยากาศโดยรวมของโรงอาหารก็คล้าย ๆ กัน ความวุ่นวายภายใต้กฎระเบียบของโรงอาหารที่ต้องทำงานแข่งขัน คงมีแต่โต๊ะของอเนกโต๊ะเดียวเท่านั้นในที่นี่ที่เป็นตัวแทนของความเฉื่อย เขาเข้ามานั่งที่นี่ตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว เขาเข้ามาตั้งแต่ที่นี่ยังคงเบาบางด้วยผู้คน จนกระทั่งที่นี่บางเบาด้วยผู้คนอีกครั้งหนึ่ง
เสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์ในกระเป๋าของอเนกดังขึ้นเบา ๆ หนึ่งครั้ง เจ้าของหยิบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หน้าจอ 5.5 นิ้วขึ้นมากดปุ่มเปิดหน้าจอ เขาเลื่อน ๆ ดูข้อความที่เพิ่งส่งเข้ามาและข้อความเก่า ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน หลายข้อความมาจากลูกค้าของเขาที่โอนเงินค่าเช่าบ้านให้ อเนกกดอ่านผ่าน ๆ และกดปิดหน้าจอไป ชายอายุห้าสิบกว่า ๆ ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะอเนกหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ ๆ ก่อนจะวางลงและเดินออกไป



สองริมฝั่งถนนกว้างสี่เลนและบนสะพานลอยยังสับสนวุ่นวายไปด้วยผู้คนที่เดินไปมาอย่างรวดเร็ว อเนกมองไปรอบ ๆ ก็มองเห็นมุม ๆ หนึ่งมีร้านขายน้ำเล็ก ๆ มีโต๊ะวางริมถนนสามชุดหน้าร้าน เขาจ้องมองและเกิดความคิดว่า บางทีพรุ่งนี้สาย ๆ ในวันที่น่าเบื่ออีกครั้งเขาอาจจะมานั่งดื่มน้ำเย็น ๆ เพื่อมองความยุ่งเหยิงที่ไร้รูปแบบนี้