ผมรีบจับแท๊กซี่ยังไปโรงแรมเดอะฮุคเพื่อไปยังไนท์คลับเล็กๆชั้นใต้ถุนโรงแรม
ไนท์คลับมีนักดนตรีเพลงแจ๊ซขับร้องพร้อมเปียโนบรรเลง
ฝนตกช่วงหัวค่ำหลังเลิกงานไปสองชั่วโมงทำให้ท้องถนนในเมืองกรุงติดถนัดคล้ายกับรถทุกคันพร้อมใจกันจอดรถไว้นิ่งๆ
แต่ยังพอมีเวลาผมเผื่อไว้แล้ว ผมนัดเจอกับเธอทุกๆวันศุกร์
ส่วนสถานที่แล้วแต่เธอจะกำหนด
ผมยังจำได้ในคืนวันแรกที่เจอเธอโดยบังเอิญที่บาร์แห่งหนึ่ง
เธอนั่งเพียงคนเดียวหน้าบาร์
ในคืนนั้นผมแอบนั่งมองเธออยู่นานแสนนานจากโต๊ะข้างหลังก่อนที่จะย้ายไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเธอ
สายตาของเราเหมือนมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน
เราทั้งคู่ไม่พูดอะไรแม้แต่จะเอ่ยถามชื่อ เราสองคนดื่มจนเมามาย
สุดท้ายของคืนนั้นจบลงที่คอนโดของผม เราร่วมรักกัน
ในตอนเช้าของทุกวันเสาร์
เธอแต่งตัวด้วยชุดเดิมออกไปจากคอนโดก่อนที่ผมจะตื่นพร้อมทิ้งโน๊ตสั้นๆบอกถึงสถานที่นัดหมายในศุกร์ถัดไป
ผมและเธอมีอะไรที่เหมือนกันคือ ผมมีภรรยาแล้ว และเธอก็มีสามีแล้ว
สาเหตุที่ทำให้เราทั้งสองได้มาเจอกันอาจะเป็นเพราะเราทั้งสองอาจต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อเจอคนใหม่ๆ
สำหรับผมนี่ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย
แสงไฟสาดส่องใบหน้าอันเรียว คิ้วที่วาดเป็นวงโค้งรับกับดวงตากลมโต
จมูกเป็นสัน ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ผมหยิกยาวเข้ากับรูปหน้า
ผิวเธอสองสีเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟทำให้ดูโดดเด่น
เธออายุเข้าสู่วัยกลางคนแล้วแต่รักษาหุ่นได้ดีเหมือนนางแบบมืออาชีพ
ต่างกับผมที่แม้หน้าตาผมยังคมหล่อเหลาในวัยอายุเข้าเลขสี่
แต่หุ่นที่ไม่เคยได้รับการดูแลมานานมากทำให้หน้าท้องเริ่มย้อย
แขนขาหน้าอกไร้ซึ่งกล้ามเนื้อ หากอยู่ในชุดทำงานหรือชุดสูทก็ยังพอปกปิดได้บ้าง
ผมจึงเลือกที่จะใส่สูทเวลานัดพบเจอเธอทุกครั้ง
"คืนนี้เราเจอกันครั้งที่ 7 แล้วนะครับ ทุกครั้งที่เจอกันก็แค่คืนวันศุกร์
เป็นไปได้มั้ยที่เราจะนัดเจอกันวันอื่น เวลาอื่น เพื่อไปยังสถานที่อื่นๆบ้าง"
ผมพูดนำ้เสียงออดอ้อนเหมือนวัยเด็กที่อ้อนร้องขอของเล่น
"จะดีเหรอคะ
การมาเจอกันในสถานที่ลับตาผู้คนแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายมากกว่า"
หญิงสาวไม่รับข้อเสนอโดย
ง่าย ผมไม่ยอมแพ้
"ผมอยากมีเวลาอยู่กับคุณให้มากกว่านี้
เราควรทำกิจกรรมอื่นร่วมกันบ้างเพื่อให้ทั้งคุณและผมได้รู้จักกันมากกว่านี้"
ผมพูดพร้อมจ้องมองดูที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
รอยจางบ่งบอกถึงว่าเธอเคยสวนแหวนที่นิ้วแม้มันจะจางจนแทบมองไม่เห็นแต่ผมก็รู้ว่าเคยมีแหวนสวมอยู่
"ฉันมีความสุขแล้วค่ะกับสถานที่แบบนี้
เวลาแบบนี้"
เธอปฏิเสธผมอย่างนุ่มนวลพร้อมซบหัวมาที่ไหล่ข้างซ้ายของผมบนโซฟาสำหรับนั่งสองคน
ผมไม่พูดอะไรต่อได้แต่หันไปจูบที่หน้าผากเธอเบาๆ
ค่ำคืนนั้นเรากับไปต่อที่คอนโดของผม เราดื่มเหล้าและนอนด้วยกันบนเตียง
ผมแต่งงานกับชลดามา 7 ปีแล้ว ว่ากันว่าคู่แต่งงานที่อยู่ด้วยกันเกิน 7 ปี
มีแนวโน้มอย่างมากที่อยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่ง หากชลดาไม่จากผมไปเมื่อ 3 ปีก่อน ผมคงไม่ต้องทนเหงาอยู่แบบนี้
"ชลดา คุณไม่อยู่บ้านเหรอตอนนี้
แล้วจะกลับบ้านกี่โมงกัน" ผมโทรหาเธอเมื่อกลับถึงบ้านแต่ไม่เจอใคร
"นี่คุณไม่สังเกตุเหรอว่าชั้นออกจากบ้านหลังนั้นมาเป็นเดือนแล้ว
ทำไมเพิ่งจะโทรมา ตลอดเวลาหนึ่งเดือนมานี่คุณได้กลับบ้านบ้างมั้ย" ชลดาตอบ
"ผมก็กลับบ้านทุกวัน แต่อาจจะดึกไปบ้าง
คุณก็รู้ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบผมเยอะแค่ไหน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องเตรียมสร้างอนาคตให้ครอบครัวเรา
ผมทำทุกอย่างก็เพื่อคุณนะ
บางวันผมไม่เห็นคุณก็นึกว่าออกไปเที่ยวหาเพื่อนบ้างหรือออกไปข้างนอก"
ผมตัดพ้อที่เธอเหมือนจะจากผมไป
"หายไปวันสองวันยังพอว่า
แต่คุณเห็นชั้นหายไปเป็นเดือนเพิ่งจะโทรหา งานคงสำคัญกับคุณมากกว่าชั้น ถ้าอย่างนั้นก็ไปแต่งกับงานเลยแล้วกัน
ตอนนี้ชั้นออกมาอยู่กับพ่อแม่ มีความสุขดี คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ
ลาก่อนที่รัก" ชลดากดสายโทรศัพท์ผมทิ้ง
ตลอดเวลา 3 ปีที่ไม่มีชลดา
ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรกับชีวิตดีนอกงานทำงาน งานแล้วก็งาน
ชีวิตผมเริ่มกลับมาชุ่มชื้นเหมือนสมัยเมื่อยังเป็นวัยรุ่นอีกครั้งเมื่อพบเธอใน 7
สัปดาห์ก่อน
"นี่เป็นนัดครั้งที่ 8 แล้วนะครับ"
นัดครั้งนี้สถานที่เปลี่ยนเธคกึ่งผับแห่งหนึ่ง เหมือนเดิมผมสวมชุดสูทมาพบเธอ
เรานั่งกันที่โซฟา เสียงดังจากดนตรีทำให้เวลาจะพูดคุยกันแต่ละทีต้องคุยกันข้างหู
จึงเป็นทีที่ผมนั่งสวมกอดเธอไว้เพื่อสะดวกเวลาที่จะพูดคุยกันเพียงแค่แนบหน้าไปยังข้างหูของอีกฝ่าย
บรรยากาศที่แสงน้อยและเรานั่งอยู่ในมุมที่ไม่มีคนเดินผ่าน
จึงไม่เคอะเขินที่ผมจะจูบที่ริมฝีปากเธออย่างดูดดื่มเป็นครั้งคราว
ผมเริ่มพูดเมื่อจูบแรกผ่านไป
"ค่ะ ทั้ง 8 ครั้งชั้นมีความสุขทุกครั้งเลยค่ะ
คุณล่ะคะ" ด้วยนำ้เสียงอ่อนหวานทำให้ผมหลงเสน่ห์เธอมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเธอมีความสุข
"แน่นอนครับ ผมมีความสุขอย่างแน่นอน
เป็นไปได้มั้ยที่วันพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกันตอนกลางวัน ผมอยากไปกินข้าวเช้ากับคุณ
อยากพากคุณไปเดินช๊อปปิ้ง กินอาหารกลางวันในร้านสวยๆอาหารดีๆ ไปดูหนัง
ดินเนอร์ด้วยร้านอาหารที่เปิดเพลงเบาๆ และผมอยากพาคุณไปนอนดูดาวที่ทะเลใกล้ๆ"
ผมพยายามพูดให้ดูน่าสนใจเผื่ออีกฝ่ายจะรับข้อเสนอ
"ฟังดูน่าสนใจค่ะ แล้วชั้นจะให้คำตอบอีกทีนะคะ
สำหรับตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข
ชั้นยังไม่อยากคิดเรื่องของวันพรุ่งนี้" เธอใช้มือทั้งสองข้างโอบรัดที่ตัวผมแรงขึ้น
ใบหน้าซุกไซร้ที่แผ่นอกของผมแนบแน่น
ผมชำเลืองมองหน้าเธอที่หลับตาพริ้มเหมือนลูกแมวน้อยที่นอนซุกไซร้หาไออุ่นจากแม่แมว
มุมปากเธอมีรอยยิ้มแฝง
เหล้าหมดไปครึ่งขวดแล้ว เวลาเริ่มดึก ฟลอร์เต้นรำคนเริ่มพลุกพล่าน
เธอลุกขึ้นโดยพลันฉุดมือผมลุกขึ้นไปยังฟลอร์เต้น
ผมยื้อยุดเล็กน้อยเพราะผมเริ่มประหม่าที่จะออกไปเต้นท่ามกลางผู้คน
แรงดึงจากเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ผมตัดสินใจปล่อยตัวไปตามแรงฉุด และแรงดึงดูดจากตัวเธอ
แต่ไม่ลืมที่จะถอดเสื้อนอกออกเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตผูกไทด์
คู่หนุ่มสาวยืนโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงที่เร็วและสนุก
ผมเริ่มต้นด้วยการยืนต่อหน้าเธอ จ้องไปที่หน้าเธอ
ผมเริ่มเมาแล้วพร้อมที่จะทำอะไรบ้าๆอย่างที่คนวัยอย่างผมน้อยคนนักจะกล้าทำกัน
ผมจำไม่ได้แล้วว่าครั้งล่าสุดที่ออกมาเต้นรำกลางฟลอร์ดิสโก้เธคผ่านมากี่ปีแล้ว
มือเท้าผมแข็งไปหมดโชคดีที่เธอเต้นนำ ผมตาม ด้วยจังหวะดนตรีที่เร้าใจปนผลจากแอลกอฮอลล์ที่ดื่มเข้าไป
ผมเต้นสนุกสุดเหวี่ยง ปล่อยกายใจไปตามอารมณ์
สิบกว่าปีที่ผ่านมานี่ผมมัวไปทำอะไรอยู่
บนโลกเรานี้มีอะไรให้ค้นหาให้สนุกอีกมากมาย
เราสองคนกลับมานั่งที่โต๊ะ
กับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายอย่างผมพอได้ออกแรงนิดหน่อยก็ทำให้หัวใจเต้นแรงได้
แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจที่หัวใจเต้นแรงเพราะได้ออกไปเต้นหรือหัวใจเต้นแรงเพราะอยู่ใกล้ๆเธอกันแน่
เหงื่อของผมเปียกออกมาเต็มตัว เหงื่อเธอมีเล็กน้อย
กลิ่นกายของแต่ละคนดึงดูดฝ่ายตรงข้ามให้เข้าหากัน
เธคใกล้ปิดแล้ว เวลาตอนนี้ยังแค่เที่ยงคืน ผมไปดื่มเหล้ากับเธอต่อที่ร้านอาหารเล็กๆใกล้คอนโดของผม
เป็นร้านธรรมดาไม่มีเพลงเปิด บรรยากาศในร้านคนคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานทั่วไป
ผมไม่ได้มาสถานที่แบบนี้นานมากแล้ว
"คุณเคยมาสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอคะ
ถ้ารู้ว่าคุณชอบแบบนี้ต่อไปชั้นจะได้นัดคุณมาร้านแบบนี้ดีกว่า"
ผู้หญิงที่ผมหลงเสน่ห์เอ่ยถาม
"ผมไม่ได้มาเที่ยวที่แบบนี้นานแล้วครับ
เมื่อได้กลับผมรู้สึกว่าที่นี่กับร้านแพงๆมันไม่ได้มีอะไรที่ต่างกันเลย
จะต่างก็ต่างกันที่ราคา
ไม่ว่าจะนั่งร้านแบบไหนความสุขที่ได้นั่งดื่มกินมันขึ้นอยู่กับว่าเรานั่งกับใครมากกว่าครับ
ถ้าผมได้นั่งกินข้าวกับคุณทุกคืน
ต่อให้เป็นนั่งกินที่บ้านผมก็ว่ามีความหมายกว่าสถานที่แพงๆเป็นไหนๆ"
ผมบรรยายความรู้สึกที่ออกมาจากใจ
"แหม! ทำเป็นพูดดีไป" หญิงสาวเขินอาย
"คำขอวันพรุ่งนี้ว่ายังไงครับ
ผมรอคำตอบอยู่" ผมถาม
"มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ค่ะ " เธอตอบ
"ครับ" ผมรับคำ พร้อมยกแก้วเหล้า
เหล้าไทยราคาถูกผมยกดื่มอย่างลื่นคอ คืนนี้จบลงที่เดิม
แต่เช้าวันใหม่ผมตื่นมาพร้อมเธอ ผมตื่่นเร็วกว่าปกติในวันหยุด
พาเธอไปกินอาหารเช้าในตลาดโต้รุ่งใกล้ที่พัก
"ปกติคุณมากินอาหารแบบนี้บ่อยมั้ยคะ" เธอถาม
"ไม่ครับ ผมไม่เคยมายังตลาดที่นี่ตอนเช้าเลย
ไม่รู้จริงๆว่ามีของขายในสถานที่แบบนี้ด้วย ปกติผมตื่นเช้าก็ตรงไปทำงานเลย
ถ้าเป็นวันหยุดผมจะนอนจนถึงบ่ายๆและตื่นไปห้าง" ผมตอบตามความจริง
"แต่ต่อไปผมคงตื่นเช้าขึ้นเพื่อมาหาอะไรกินที่ตลาด"
ผมตอบอีกครั้ง
"ดีค่ะ เป็นเรื่องที่ดี" เธอตอบ
เมื่อกินเข้าเสร็จเราเดิน
"สร้อยพร้อมจี้เส้นนี้เหมาะกับคุณ
ผมซื้อให้คุณแทนคำขอบคุณของผมที่คุณยอมออกมาเดินเที่ยวห้างกับผมในครั้งนี้"
ผมหยิบสร้อยในตู้โชว์ของร้านก่อนจะปลดตะขอและสวมไว้ที่คอของเธอ
"ขอบคุณมากค่ะ คุณช่างตาแหลมจริงๆ
เลือกสร้อยที่สวยที่สุดในร้านออกมาได้" เธอตอบ
"เดี๋ยวเราขึ้นไปเลือกดูโปรแกรมหนังกันเถอะ
อาทิตย์นี้มีหนังเข้าโรงใหม่ๆหลายเรื่องเหมือนกันนะ" ผมชวนเธอ
"กว่าจะถึงเวลาที่หนังฉายยังอีกนาน
เราไปทานมื้อเที่ยงกันก่อนดีกว่าครับ" ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่ว
และตอนนี้เที่ยงตรงพอดีผมเลยชวนเธอไปทานข้าว
"หนังสนุกมากเลยค่ะ
เสียดายที่ตอนท้ายทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน"
หลังดูหนังจบเราทั้งคู่คุยถึงภาพยนตร์ที่เราเพิ่งดูกันมา
"ผมว่าเค้าผูกเรื่องได้ดีนะ สร้างได้สมจริงดี
ทุกอย่างบนโลกนี้มันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เราอยากจะให้เป็น"
ผมพยายามพูดให้ดูเท่ๆเข้าไว้
"ผมขออนุญาติพาคุณไปทะเลนะครับ
เราจะไปดินเนอร์กันที่ริมชายหาด และเราจะนอนดูดาวด้วยกัน"
ผมชวนเธอไปทะเลใกล้ๆ ผมขับรถออกจากเมืองตอนเวลาประมาณบ่ายสามโมง
กว่าจะไปถึงทะเลก็หัวค่ำพอดี
โชคดีที่วันนี้การจราจรค่อนข้างจะคล่องตัว
ผมขับรถไปเรื่อยๆด้วยความเร็วไม่มากนัก
ระหว่างทางเราพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานและวางแผนการของคืนนี้ไว้แล้ว
เราตะเวนหาที่พักที่มีบรรยากาศตามที่เราต้องการ
ในที่สุดก็เจอบังกะโลที่พัก ค่าห้องที่นี่ไม่แพง ที่นี่แลดูเป็นธรรมชาติมาก
ผมและเธอตกลงว่าจะพักค้างคืนกันที่นี่
หลังจากเก็บของ และอาบน้ำเสร็จ ผมแต่งตัวเพื่อจะออกไปหาร้านอาหาร
แต่วันนี้ผมเลือกที่จะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ
เธอเช่นกันที่แต่งตัวสบายๆโดยสวมชุดเดรสยาวสีส้มลูกกวาด
รวบผมด้วยผ้าคาดผมสีเดียวกันกับชุด สวมกำไรลูกปัดสลับสี
และสร้อยพร้อมจี้ที่ผมซื้อให้เธอ
เราสั่งอาหารทะเล เครื่องดื่มวันนี้ผมเลือกเป็นไวน์ขาว
พอสั่งอาหารและเครื่องดื่มเสร็จ ผมมองไปที่บนเวที นักดนตรีร้องพร้อมเกากีตาร์เพลง Have I Told You Lately เมื่อจะเริ่มตั้งใจฟัง
บทเพลงก็มาถึงเนื้อร้องท่อน
You fill my life with laughter
And somehow you make it better
Ease my troubles that's what you do
There's a love that's divine ......
ผมกุมมือเธอแน่นและตั้งใจฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์
"พรุ่งนี้เป็นอาทิตย์
คุณคิดว่าเราควรจะพักผ่อนต่อที่นี่อีกวันดีมั้ย พรุ่งนี้เราจะได้เล่นน้ำกัน หรืออาจจะหาเช่าสกูตเตอร์มาขี่
ตอนเย็นถ้ายังไม่อยากกลับก็นอนต่อที่นี่อีกหนึ่งคืน คุณคิดว่ายังไงครับ"
ผมถามเพราะอยากต่อเวลาอยู่กับเธอให้มากขึ้น
"วันจันทร์คุณไม่ต้องรีบไปทำงานเหรอคะ
ถ้าไม่ไปทำงานบริษัทไม่ว่าอะไรคุณเหรอ" เธอถาม
"ผมไม่แคร์ ผมคิดว่ากำลังจะลาออกจากบริษัทบ้าๆนั่นอยู่พอดี"
ผมตอบตามความเป็นจริง
"ทำไมล่ะคะ
มีปัญหาอะไรกับที่ทำงานหรือเปล่า" เธอถาม
"ผมคิดว่าอยากให้เวลากับตัวเองและคนรอบข้างให้มากกว่านี้ครับ
งานของผมถึงแม้จะได้เงินเยอะ
เงินเดือนที่ได้ก็คุ้มค่ากับแรงงานที่เราทำบางทีก็เกินคุ้มซะอีก
แต่ผมอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากว่านี้ อยากลองไปทำอะไรใหม่ๆ
เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ อยากอยู่กับคนที่ผมรักตลอดเวลา"
ผมอธิบายแรงปรารถนาให้เธอฟัง
"โรแมนติกจัง"
รอยยิ้มของเธอทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่มอง
เราทานอาหารเสร็จ ไวน์หมดไปหนึ่งขวด
จากนั้นเรากลับไปยังบังกะโลที่พักของเรา
สาเหตุที่เราเลือกพักที่นี่เพราะบังกะโลอยู่ติดชายหาด
และยังมีเตียงนอนด้านนอกของห้องให้เราสามารถนอนฟังเสียงคลื่นที่ชายหาดพร้อมมองดูดวงดาวบนท้องฟ้าได้ด้วย
เรานอนกันคนละเตียงแต่ผมก็เอื้อมมือไปจับมือเธอไว้
นอนโดยไม่พูดอะไรตาจ้องมองที่ดวงดาวบนฟ้า หูรับฟังเสียงคลื่นที่กระทบฝั่ง
ใจเราล่องลอยเหมือนกับทั้งโลกนี้มีแค่เราสองคน
"คุณครับผมมีเรื่องนึงที่อยากจะบอก"
ผมทำลายความเงียบด้วยการชงคำถาม
"เชิญค่ะ" เธอรับฟัง
"หากคุณไม่รังเกียจ
กรุณาแต่งงานกับผมได้มั้ยครับ" ผมพูดขณะที่ตายังจ้องบนท้องฟ้า
สักพักผมหันหน้าไปมองหน้าเธอก่อนจะพูดอีกครั้งว่า
"ไม่สิ ช่วยแต่งงานกับผมอีกรอบได้มั้ยครับ ชลดา"
ผมถามอย่างเปิดเผย
"ตกลงค่ะคุณเมธาวี" เธอตอบ
------------------------------------------------------