วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำหนักกุ้งที่หายไป



สุชาติเดินเลือกไซส์กุ้งสดจากฟาร์มกุ้งเจ้าประจำ ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับการดูกุ้งในถังน้ำแข็งเฮียง้อเจ้าของฟาร์มเดินเข้ามาทักอย่างสนิทสนม

"วันนี้อยากได้กุ้งไซส์ไหนดีคุณสุชาติ" เฮียถามอย่างเป็นกันเอง

"อ่อเฮีย ผมอยากได้กุ้งไซส์ใหญ่เพื่อเอาไปทำฉู่ฉี่ให้เพื่อนๆผมน่ะครับ พอดีเพื่อนมาเที่ยวบ้านเลยว่าจะเอาไปเยอะหน่อย" สุชาติโกหกเฮียว่าจะเอากุ้งไปทำอาหารแต่ความจริงเค้าจะเอากุ้งไปทำปุ๋ยใส่ต้นไม้ที่บ้าน

ความจริงแล้วสุชาติเป็นคนที่ชอบกินกุ้งเป็นชีวิตจิตใจ เค้าชอบมาซื้อกุ้งจากฟาร์มแห่งนี้เป็นเวลานานหลายปีแล้ว ในหนึ่งสัปดาห์สุชาติจะต้องกินกุ้งอย่างน้อยหนึ่งมื้อ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้สุชาติต้องเลิกกินกุ้งไปตลอดชีวิตเพราะว่า เมื่อเดือนที่แล้วเค้าตัดสินใจไปหาหมอเพราะว่าก่อนหน้านี้หลายเดือนสุชาติเริ่มมีอาการมือชาเท้าชา อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หงุดหงิดง่าย เบื่ออาหาร และท้องผูก หมอบอกกับสุชาติว่าเลือดของเค้าปนเปื้อนไปด้วยสารตะกั่วจำนวนมาก ทำให้สุชาติเป็นโรคพิษตะกั่วขั้นเรื้อรั้ง เมื่อหมอซักประวัติชีวิตประจำวันอาหารการกิน สุชาติบอกว่าเค้าชอบกินกุ้งมากหมอจึงสงสัยว่ากุ้งอาจมีสารตะกั่วเจือปน หลังจากนั้นสุชาติกลับไปตรวจสอบกุ้งที่ซื้อมาจากฟาร์มของเฮียง้อ ปรากฏว่าในกุ้งแต่ละตัวจะมีเม็ดตะกั่วขนาดเท่ากรวดเม็ดทรายจำนวน 4-5 เม็ดฝังอยู่ในหัวกุ้ง หลังจากนั้นสุชาติก็เลิกกินกุ้งตลอดชีวิตแม้จะเป็นกุ้งจากฟาร์มอื่น

"คุณสุชาติเป็นลูกค้าคนสำคัญของฟาร์มเรา ถ้าขาดคุณสุชาติไปนี่ฟาร์มเราต้องแย่ๆแน่ๆเลย 55555" เฮียพูดหยอกสุชาติอย่างสนิทสนม

"เฮียก็พูดเกินไป ผมเป็นแค่ลูกค้ารายย่อยมาซื้อทีละโลสองโล เทียบอะไรได้กับร้านอาหารใหญ่ๆหลายร้านที่มาซื้อกุ้งของเฮียไปทำอาหารให้คนกิน" สุชาติพูดโต้ตอบเฮียง้อแบบไม่สบตาเฮีย

"แต่คุณสุชาติเป็นลูกค้าที่มาเลือกซื้อกุ้งเองจากฟาร์มมานานจนตอนนี้ผมคิดว่าคุณสุชาติเป็นเพื่อนผมไปแล้วนะครับเนี่ย" เฮียง้อตามคุยกับสุชาติอย่างสนิทสนม

"ผมต้องขอบคุณเฮียมาก ที่หลายเดือนมานี่เฮียชอบแถมกุ้งให้ผมตลอดเลย ซื้อแค่โลเดียวแต่แถมมาให้อีกโล" สุชาติพูดเหมือนขอบคุณเฮียที่ช่วยแถมตะกั่วในกระแสเลือดให้เค้าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

"เอาน่าๆ เล็กน้อยๆ ถือซะว่าเราเป็นกัลยาณมิตรคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" เฮียพูดต่อ

สุชาติคิดในใจ "กัลยาณมิตรเรอะ" สุชาติเลือกกุ้งเสร็จ นำกุ้งไปชั่งกิโลและจ่ายเงิน เฮียง้อแถมกุ้งให้สุชาติเพิ่ม

เมื่อกลับถึงบ้านสุชาตินำกุ้งทั้งหมดวางบนโต๊ะ ค่อยๆแกะหัวกุ้งทีละตัวเพื่อใช้ครีมปลายแหลมความหาก้อนเม็ดตะกั่ว เมื่อพบแล้วก็ครีบเม็ดตะกั่วเก็บไว้ในขวดโหลแก้ว สุชาติแยกตะกั่วออกจากหัวกุ้งจนครบทุกตัวจึงปิดฝาขวดโหลเก็บไว้ ซากเปลือกกุ้งและเนื้อกุ้งที่เหลือเค้ารวบรวมและนำไปทิ้งยังสวนหลังบ้าน

อาทิตย์ต่อมาสุชาติก็กลับมาเลือกซื้อกุ้ง วันนี้สุชาติขอเฮียเดินดูรอบๆฟาร์มกุ้ง เฮียง้อใจดีพาสุชาติเดินชมรอบฟาร์ม ฟาร์มของเฮียง้อเป็นฟาร์มกุ้งขนาดกลาง เลี้ยงกุ้งทั้งหมด 4 บ่อ เป็นบ่อที่ปูขอบบ่อด้วยผ้าพีอี จำนวน 2 บ่อ ขนาดบ่อ 3.5 และ 4 ไร่ และบ่อที่ไม่ปูผ้าพีอี จำนวน 2 บ่อ ขนาดบ่อ 3.5 และ 4 ไร่ มีห้องที่ทำเป็นโรงเก็บกุ้งท้ายบ่อ

"เฮียเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้ยังไง เริ่มมาจากไหนเหรอ" ผมถามเฮียถึงเรื่องราวในอดีต

"เฮ่ออออ" เฮียง้อถอนหายใจก่อนจะตอบคำถาม "พ่อแม่ผมเริ่มทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ตอนผมยังเล็กๆแล้ว จากเมื่อก่อนก็ยังเป็นสระเล็กๆไม่ได้มาตรฐานอะไรมาก กำรี้กำไรแทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำ ได้เงินมาก็พอจ่ายค่าลูกน้อง สมัยก่อนในจังหวัดเราฟาร์มกุ้งมันเยอะ ราคาก็แข่งกันจนจะขาดทุนกันหมดแล้ว ตอนผมอายุได้ 15 ปี พ่อท่านก็มาตายเพราะทำงานหนัก จากนั้นอีก 3 ปีแม่ก็มาตายตามกันไป" เฮียง้อพูดถึงความยากลำบากในสมัยเด็กให้สุชาติฟัง เหมือนได้ระบายอะไรออกมา

"แล้วใครเป็นคนดูแลฟาร์มกุ้งต่อล่ะ" สุชาติถามต่อเพราะรู้ว่าเฮียแกอยากเล่า

"ตอนที่แม่เสียผมก็ดูแลต่อเลย เพราะงานทุกอย่างในฟาร์มผมรู้หมดแล้ว แต่ตอนนั้นเองที่ทำให้รู้ว่าหนี้สินของฟาร์มเยอะมาก เยอะจนท้อไปเลย แต่ก็ไม่อยากขายฟาร์มนะเพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรกิน" เฮียตอบคำถาม

"แล้วเฮียทำยังไงต่อ" สุชาติถาม

"ผมก็ไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมสิ เปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตนิดหน่อยก็ทำให้มีรายได้ต่อเดือนมากขึ้นจนสามารถที่จะไปกู้แบงค์ไปเงินก้อนมาจำนวนหนึ่ง จึงปรับปรุงฟาร์มให้มีมาตรฐานดีขึ้น พอฟาร์มใหญ่กำลังผลิตเยอะก็แข่งราคากับฟาร์มเล็กๆจนฟาร์มเล็กๆต้องปิดฟาร์มไปเลย ผมจึงลืมตาอ้าปากได้ถึงทุกวันนี้ไง" เฮียง้อพูดอย่างภูมิใจ

เฮียง้อพาสุชาติเดินรอบบ่อจนถึงท้ายบ่อผ่านห้องที่ทำเป็นโรงคัดไซส์กุ้ง สุชาติทำทีจะขอเข้าไปดู

"เฮีย ผมขอเข้าไปดูในโรงงานนั่นหน่อยได้มั้ย อยากไปดูกรรมวิธีแยกไซส์กุ้งว่าเค้าทำยังไงกัน" สุชาติถามเฮียง้อด้วยสายตากึ่งอยากรู้อยากเห็น

"เอาะอ่อ! ค่ะๆคือว่าตอนนี้ที่โรงแยกกุ้งคนงานเพิ่งจะเอากุ้งขึ้นมาจากสระ ข้างในอาจจะวุ่นวายกัน เข้าไปตอนนี้เกรงว่าจะไม่สะดวก ไว้คราวหน้าละกันเนาะ เดี๋ยวจะให้เข้าไปดู" เฮียพูดกันท่าสุชาติที่จะขอเข้าไปดูในโรงงาน

"ไม่เป็นไรเฮีย ไว้คราวหน้าก็ได้" สุชาติพูดเหมือนกับจะไม่สนใจที่ถูกปฏิเสธเพราะรู้อยู่แล้วว่าเฮียไม่ให้เข้าไปดูแน่

วันนี้สุชาติหิ้วกุ้งกลับบ้าน 3 กิโล แน่นอนว่าบางส่วนเป็นของแถมจากเฮียง้อ สุชาติทำตามขั้นตอนเดิมคือแยกตะกั่วออกจากหัวกุ้งทุกตัว และเก็บมันใส่ขวดโหลแก้วอย่างดีมีฝาปิดมิดชิด และนำซากกุ้งไปทิ้งยังสวนหลังบ้านเหมือนเดิม

อาทิตย์ต่อมาสุชาติโทรไปถามเฮียง้อว่าวันนี้เฮียจะอยู่ที่ฟาร์มกี่โมง เฮียบอกว่าจะอยู่ช่วงบ่ายๆ ดังนั้นสุชาติจึงเข้าไปที่ฟาร์มช่วงสายๆประมาณ 10 โมง โดยทำทีไปขอเลือกดูกุ้งเหมือนปกติ และเมื่อคนงานอื่นๆเผลอสุชาติก็ทำเป็นเดินลงไปดูบ่อกุ้ง เดินไปเรื่อยๆจนถึงโรงงานท้ายบ่อ เมื่อสังเกตว่าไม่มีใครอยู่ในนั่นจึงแอบเข้าไปในโรงงาน

เป็นตามที่สุชาติคิด เค้าเห็นถังพลาสติกใบใหญ่สีดำ ข้างในบรรจุเม็ดตะกั่วเม็ดเล็กๆประมาณเท่าเม็ดทรายเม็ดใหญ่ สุชาติแอบถ่ายรูปโดยใช้โทรศัพท์ถ่ายเอาไว้ เมื่อสุชาติมั่นใจว่าที่ฟาร์มนี้นี่เองที่แอบยัดตะกั่วลงในกุ้งก็รีบเดินออกมาจากโรงงานอย่างทันทีโดยระวังไม่ให้ใครเห็น เมื่อออกมาสุชาติก็ทำทีเป็นเดินดูนู่นดูนี่จนเวลาผ่านไปไม่นานเฮียง้อก็กลับมา

"สวัสดีคุณสุชาติ ขอโทษทีที่ปล่อยให้รอนาน พอดีตอนเช้าไปคุยกับร้านอาหารที่มาเปิดใหม่ ไปสู้ราคากับเจ้าอื่นๆมา สรุปเป็นผมที่สามารถขายได้ในราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่น" เฮียง้อทักทายสุชาติอย่างอารมณ์ดี

"ไม่เป็นไรครับเฮีย ผมก็เพิ่งมาก่อนหน้าเฮียไม่นานหรอก พอดีที่บริษัทจะมีงานเลี้ยงน่ะ ผมเลยจะมาเอากุ้งไซส์ใหญ่ซัก 10 โลไปเลย แต่งวดนี้เฮียไม่ต้องแถมให้ผมนะ เพราะบริษัทให้งบมาแล้ว" สุชาติพูดกับเฮียด้วยสีหน้าเก็บอาการจากสิ่งที่เค้าเจอมาเมื่อซักครู่นี้ "อ่อ แล้ววันนี้ผมขอบิลเงินสดด้วยนะ พอดีต้องใช้ตั้งเบิกกับบริษัทด้วยน่ะเฮีย" สุชาติย้ำ

"ได้เลยๆ" เฮียรับปากสุชาติ

"นี่คือไซส์ที่ใหญ่และดีที่สุดของเราเลย รับประกันได้ว่าฟาร์มเราราคาดีที่สุดแล้วในจังหวัด คุ้มแน่นอน" เฮียง้อพูด

"ใช่แล้วเฮีย ผมถึงอุดหนุนฟาร์มนี้ไม่เคยเปลี่ยนไง" สุชาติตอบเฮียง้อ "เฮีย วันอาทิตย์หน้าเฮียมีธุระไปไหนมั้ย" สุชาติถามเฮียง้อ

"อาทิตย์หน้าไม่มีนะ ทำไมเหรอ" เฮียง้อถาม

"คือว่าอาทิตย์หน้าเฮียไปเที่ยวสวนของผมมั้ย เป็นสวนผลไม้ของผมเอง ได้มรดกมาจากพ่อ แต่ว่าผมไม่อยากให้ใครรู้น่ะว่าสวนนั้นมีผมเป็นเจ้าของ เฮียห้ามบอกใครนะแม้แต่ลูกน้องว่าไปดูสวนกับผม" สุชาติพูดย้ำกับเฮียโดยระวังไม่ให้ใครได้ยิน

"อ่อๆ ได้ๆไม่มีปัญหา เดี๋ยวไว้วันอาทิตย์หน้าค่อยโทรนัดกันออกไปเจอข้างนอกก็ได้" เฮียง้อพูด

"งั้นวันนี้ผมไปก่อนนะ เดี๋ยวต้องรีบเอากุ้งไปให้พ่อครัวที่บริษัทจ้างมา ไว้เจอกันเฮีย" สุชาติบอกลาเฮีย เฮียง้อตอบรับ

สุชาติขนกุ้งกลับไปทำตามขั้นตอนเดิมทุกประการแต่วันนี้มีปริมาณมากหน่อย สุชาติแยกตะกั่วออกจากตัวกุ้ง เก็บตะกั่วใส่ในขวดโหล นำซากกุ้งไปทิ้งยังสวนหลังบ้าน สุชาติเอารูปตะกั่วในโรงงานที่ถ่ายมาเปิดดูเทียบกับตะกั่วในขวดโหล เมื่อมั่นใจลักษณะตะกั่วใกล้เคียงกัน สุชาติจึงได้นำขวดโหลที่ใส่เม็ดตะกั่วจำนวนมากพร้อมเอกสารจำนวนหนึ่งไปส่งยังสถานที่ๆหนึ่งซึ่งมีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

อาทิตย์ถัดมาสุชาติโทรไปหาเฮียง้อตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อนัดออกมาเจอกันแถวนอกเมืองในเวลาบ่ายโมง โดยไม่ลืมที่จะกำชับว่าอย่าบอกใครว่าออกมาเจอกับเค้า สุชาติไปแอบซุ่มรอเฮียง้อตั้งแต่เช้าแล้วโดยไปซ่อนตัวแถวใกล้จุดนัดพบ เมื่อถึงเวลานัดพบเฮียง้อขับรถเข้ามาเห็นสุชาติยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว จึงถามสุชาติว่า

"อ้าว! แล้วคุณสุชาติมายังไงเนี่ย เอารถไปจอดไว้ที่ไหน" เฮียง้อถาม

"อ๋อ ผมเอารถจอดที่สวนไง แล้วก็เดินออกมารับเฮียตรงนี้ เพราะถ้านัดที่สวนเลยกลัวเฮียไปไม่ถูก" สุชาติตอบด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมมาดมั่น

"เฮีย ความจริงวันนี้ผมไม่ได้ชวนเฮียมาดูสวนผมอย่างเดียวนะ" สุชาติพูด

"อ่อๆ แล้วมีอะไรอีกเหรอ ที่ชวนมาวันนี้" เฮียง้อถาม

"ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานี้เฮียสมนาคุณของแถมให้ผมตลอดเลย ผมรู้สึกเกรงใจเลยคิดว่าจะเอาของสิ่งนั้นมาคืนเฮียน่ะ" สุชาติพูดพร้อมจ้องตาเฮียง้ออย่างดุดัน

"อ่อๆ ถ้าคิดจะเอาเงินมาคืนให้เลิกคิดไปเลย ผมไม่เอาหรอก" เฮียง้อพูด

"ไม่ใช่เงินเฮีย แต่เป็นอันนี้" สุชาติหยิบเม็ดตะกั่ววางบนมือเฮียง้อหนึ่งเม็ด เฮียง้อก้มหน้าดูแต่ไม่ทันที่เฮียง้อจะดูเสร็จว่าเป็นเม็ดอะไรสุชาติพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น

"นั่นยังไม่หมด ยังเหลืออีกเม็ดหนึ่ง" เมื่อพูดจบสุชาติเล็งปืนมาที่หัวเฮียง้อ เหนี่ยวไกปืน .38 ทะลุกลางหัวเฮียง้อ

เฮียง้อตายคาที่ จากนั้นสุชาติรีบหลบหนีตามเส้นทางที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ สุชาติต้องรีบกลับบ้านไปพักผ่อน วันพรุ่งนี้เค้ามีนัดเข้ารับการรักษาโรคพิษตะกั่วที่โรงพยาบาล สุชาติตั้งใจว่าก่อนที่จะเข้ารับการรักษาทางกายเค้าอยากชำระความแค้นทางใจออกไปก่อน เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว สุชาติส่งตะกั่วทั้งหมดที่เค้าเก็บไว้ในขวดโหลแก้วไปให้โรงหล่อโลหะ และเอกสารนั้นเป็นแบบหัวกระสุนของลูกปืน .38 เมื่อสุชาติได้หัวกระสุนที่มาจากตะกั่วในตัวกุ้ง จึงนำหัวกระสุนนี้ไปสลับกับหัวกระสุนที่ติดมากับลูกกระสุนเดิม



เมื่อสุชาติยิงเฮียง้อตาย เค้าพูดออกมาเสียงหนักแน่นว่า "ของสิ่งไหนที่มันไม่ใช่ของเรา ก็ให้คืนเจ้าของเค้าไป ตอนนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น